บ้านเรือนไทยภาคกลาง
![](https://c81e7e6d-a-62cb3a1a-s-sites.googlegroups.com/site/baanruenthai4pak/reuxnthiy-phakh-kl/thaihouse3.jpg?attachauth=ANoY7coEwXbQBZyXOUtkNGPP5uxXtsB4XYjI63_r2M4mpGHRhiw06jMuWzyqsiEK21FcrPGJhvmmktyvLItA_ELrCTiVLHZ0HfNc61r46gybzFgOapYuC9jXd7s1hifZycPNB7ywd2L6LCxOEj84LkY9CbtkyJp_Fatnw9AcGBgPSZmN8Vj3wX0DLCnCIRu18N9MUboqWc3AE7BLqTe6QSa-G04w3CfcS9whX1K2knAXWVLrnNQfVPE8bNbdS_eFEn_Ih_eHJIgh&attredirects=0)
บ้านเรือนไทยภาคกลาง เป็นหนึ่งในสี่รูปแบบของเรือนไทยทั้งสี่ภาคที่ได้รับความนิยมสร้างขึ้นเพื่ออยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยโบราณ เรือนไทยภาคกลางนั้นจัดว่าเป็นเรือนไทยที่ได้รับความนิยมมากกว่าเรือนไทย ภาคอืน ๆ ลัษณะของเรือนไทยภาคกลางจะยกใต้ถุนสูง โดยมี ระเบียง และนอกชานทอดรับในลักษณะไล่ระดับ ลดหลั่นกันไป พื้นระเบียงลดจากพื้นห้องนอน 40 เซนติเมตร
พื้นชานลดจากระเบียงอีก 40 เซนติเมตร และปิดด้วยไม้ระแนงตีเว้นช่องโปร่ง สามารถมองลงมายังใต้ถุนด้านล่างได้ การลดระดับ พื้นเช่นนี้จะช่วยให้ลมพัดผ่านจากใต้ถุนขึ้นมาข้างบน ทำให้เรือนไทยเป็นเรือนที่ไม่ร้อนอบอ้าว เพราะมีอากาศเย็นไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งการมีตัวเรือนที่สูง ทำให้สามารถใช้พื้นที่ด้านล่างเก็บเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำกสิกรรม ป้องกันน้ำท่วม
และยังป้องกันสัตว์ร้าย หรือคนร้ายที่จะมาคุกคามคนในบ้านในยามค่ำคืน
หลังคาของเรือนไทยภาคกลาง มีความคล้ายคลึงกับเรือนไทยภาคอื่น ๆ ค่ะ คือมีหลังคาทรงจั่วสูง ชายคายื่นยาว ลักษณะคล้ายหลังคาทรงมนิลา ใช้ไม้ทำโครงและใช้จาก แฝกหรือกระเบื้องดินเผาเป็นวัสดุมุงหลังคา วัสดุเหล่านี้ต้องใช้วิธีมุงตามระดับองศาที่สูงชันมากเพื่อให้น้ำฝนไหลได้ เร็วและไม่เกิดอาการรั่ว ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่น่าชื่นชมของคนไทยเรา ก็คือการทำหลังคาทรงสูงนี้ มีผลช่วยบรรเทาความร้อนที่จะถ่ายเทลงมายังตัวบ้าน ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความเย็นสบาย สำหรับเรือนครัว ทั่วไปตรงส่วนของหน้าจั่วทั้ง 2 ด้าน ทำช่องระบายอากาศ
โดยใช้ไม้ตีเว้นช่องหรือ ทำเป็นรูปรัศมีพระอาทิตย์ เพื่อถ่ายเทควันไฟออกจากเรือนครัวได้สะดวก
และทำชายคากันสาดให้ยื่นออกจากตัวเรือนมาก ๆ เพื่อกันแดดส่องและฝนสาด
และเนื่องมาจากดินฟ้าอากาศของบ้านเรา ค่อนข้างจะมีลักษณะร้อนอบอ้าวเกือบตลอดทั้งปี
จึงมีลักษณะนอกชานที่ค่อนข้างกว้าง โดยมีพื้นที่ใช้สอยถึงร้อยละ 40 ของพื้นที่ทั้งหมด ถ้ารวมพื้นที่ของระเบียงเข้าไปด้วยจะมีปริมาณถึงร้อยละ 60 เลยทีเดียว โดยที่คนไทยตั้งแต่สมัยโบราณ ใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นส่วนอาศัย พักผ่อน และทำกิจกรรมต่าง ๆ ส่วนที่อาศัยหลับนอนมีฝา กั้นเป็นห้อง มีเนื้อที่เพียงร้อยละ 40 ของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น
![](https://c81e7e6d-a-62cb3a1a-s-sites.googlegroups.com/site/baanruenthai4pak/reuxnthiy-phakh-kl/966.jpg?attachauth=ANoY7cq4Qymb7urKlG-nY_sfkeb5PFtoSnxTo9Fahma7qfdsB5WAJVhPlFhmHlB7eRNvqCWuVk92bMUCArgMMs3tgF5_x0F3yA6UJVA965bI_W3cklIhR2IkTyjJUahQcjyUj3dMVzwUhRhhpTkf986WJyMhD4Wx6pni8e_22DEE5L2TAaL8DoGM9YvfSGb7DgGQ7Ng6_f0WeaENU5WO5mIld6BSIAjIHT5q9TYr6aRlBKmvsrYfbVQ%3D&attredirects=0)
รูปทรงเรือนไทยภาคกลาง
เป็นเรือนยกพื้น ใต้ถุนสูง สูงจากพื้นดินเสมอศรีษะคนยืน รูปทรงล้มสอบ หลังคาทรงสูงชายคายื่นยาว
เพื่อกันฝนสาด แดดส่อง นิยมวางเรือนไปตามสภาพแวดล้อมทิศทางลมตามความเหมาะสม
เช่น อยู่ริมน้ำ ลำคลอง ตัวเรือนก็วางยาวไปตามลำน้ำด้วยหรืออยู่ริมถนนก็วางตัวเรือนไปตามถนนตำแหน่ง ของผังเรือนขึ้น
อยู่กับคติความเชื่อเป็นหลัก
เรือนไทยในภาคกลาง
ถือเป็นแบบฉบับของเรือนไทยเดิมที่เราคุ้นเคยกันดี ในรูปแบบ เรือนฝาปะกนถือเป็นเรือนไทยแท้
เรือนไทยฝาปะกน คือเรือนที่ฝาทำจากไม้สัก มีไม้ลูกตั้งและลูกนอน และมีแผ่นไม้บางเข้าลิ้นประกบกันสนิท
หน้าจั่วก็ทำด้วยวิธีเดียวกัน เราจะพบเห็นเรือนไทยภาคกลาง รูปแบบต่าง ๆ อาทิ เรือนเดี่ยว เรือนหมู่ เรือนหมู่คหบดี
และจากการดำเนินชีวิตของคนไทยในอดีตผูกพันกับแม่น้ำลำคลอง อันเป็นทางคมนาคมที่สะดวกในเขตภาคกลางจึงเกิดรูปแบบ
เรือนพักอาศัยเช่นเรือน แพ เรือนไทยในภาคกลางอาจจำแนกออกเป็น
- เรือนเดี่ยว
เป็นเรือนสำหรับครอบครัวเดี่ยว สามีภรรยาและลูกที่ยังไม่ออกเรือน สร้างขึ้นโดยมีประโยชน์ใช้สอยที่เพียงพอกับครอบครัวเล็ก ๆอาจเป็นเรือนเครื่องผูกเรือนเครื่องสับ หรือผสมผสานกันก็เป็นได้แล้วแต่ฐานะทางเศรษฐกิจ จะเอื้ออำนวย ประกอบด้วย
เรือนนอน 1 หลัง เรือนครัว 1 หลัง ระเบียงยาว ตลอดเป็นตัวเชื่อมระหว่างห้องนอนกับชาน
- เรือนหมู่
เรือนหมู่ คือ เรือนหลายหลังซึ่งปลูกอยู่ในที่เดียวกันเมื่อลูกเต้าออกเหย้าออกเรือนไปแล้ว เรือนเหล่านี้หลังหนึ่งเป็นเรือนเดิม ซึ่งพ่อแม่อยู่ส่วนที่เหลือเป็นเรือน หลังย่อมกว่า เป็นที่อยู่ของบุตรสาวซึ่งออกเรือนไป แล้วจำนวนหลัง แล้วแต่จำนวนบุตรสาว เนื่องจากสมัยก่อนลูกชายแต่งงานส่วนใหญ่
จะไปอยู่บ้านผู้หญิง ส่วนลูกผู้หญิงจะนำเขยเข้าบ้าน
- เรือนหมู่คหบดี
เรือนหมู่คหบดีโบราณ เป็นเรือนสำหรับผู้มีอันจะกินดังคำกล่าวว่า " ถ้าบ้านใด มีแม่เรือน 2 หลัง หอนั่ง
ครัวไฟ หัวกระไดต้นโมกเป็นบ้านเรือนชั้นผู้ดีมีอันจะกิน " ลักษณะการจัดเรือนหมู่คหบดีของ
โบราณเป็นเรือนขนาดใหญ่มีเรือนคู่และเรือนหลังเล็กหลังน้อยรวมเข้าด้วยกัน แต่ละหลังใช้ประโยชน์ต่างหน้าที่กันออกไป ประกอบด้วย เรือนนอน เรือนลูก เรือนขวาง เรือนครัว หอนก และชาน
- เรือนแพ
สายน้ำกับชีวิตแบบไทย ๆอยู่คู่กันมาโดยตลอด ส่วนใหญ่คนไทยจะอาศัยอยู่ริมน้ำเพราะเป็นเส้นทางการ คมนาคมที่สะดวกและเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชิวิตประจำวัน และงานเกษตรกรรมในบางพื้นที่ที่บริเวณชายน้ำเป็นที่ลุ่ม มีน้ำท่วมถึงเป็นเวลานานในช่วงหน้าน้ำ การสร้างบ้านบริเวณชายฝั่งต้องยกพื้นชั้นบนสูงมาก จึงจะพ้นน้ำซึ่งไม่สะดวกในหน้าแล้งทำให้เกิดการสร้างเรือนในลักษณะ " เรือนแพ " ที่สามารถปรับระดับของตนเองขึ้นลงได้ตามระดับน้ำในแม่น้ำลำคลอง
![](http://www.openbase.in.th/files/khonthai.com-pic047.jpg)
![](http://www.openbase.in.th/files/khonthai.com-pic049.jpg)
![](http://www.openbase.in.th/files/khonthai.com-pic048.jpg)
![](http://www.openbase.in.th/files/khonthai.com-pic050.jpg)